บริษัท คาเฟ่ สแควร์ ซัพพลาย(2004) จำกัด

บทความ

Tren coffee dripper

15-04-2560 11:46:40น.

จับตาเทรนด์ชงกาแฟสไตล์ญี่ปุ่น

“Pour Over”

เปิดประตูสู่โลกของกาแฟแล้วสัมผัสกลิ่นหอมอันเย้ายวนใจ เคาน์เตอร์ที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้าเป็นสิ่งเชื่อมต่อระหว่างโลกของบาริสต้ากับเหล่าลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร ซึ่งนอกจากเราจะเห็นเครื่องชงเอสเพรสโซ่ขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังแล้ว ปัจจุบันร้านกาแฟสมัยใหม่ ทั้งที่เป็นร้านอิสระและร้านกาแฟแบบเครือข่ายก็เริ่มใช้เครื่องชงกาแฟ ขนาดย่อมทำจากแก้วใส ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับราวกับหลอดทดลองทางวิทยาศาสตร์ และกลั่นเอาความพิถีพิถันของบาริสต้าออกมาเป็นกาแฟรสชาติบริสุทธิ์ในแต่ละแก้ว

สำหรับเทรนด์กาแฟในปัจจุบันนิยมทำเครื่องดื่มที่มีพื้นฐานจากเอสเพรสโซ่ ไม่ว่าจะเป็นคาปูชิโน่  ลาเต้เ เป็นต้น ซึ่งเป็นสไตล์อิตาเลียนแต่ก็เริ่มเทรนด์ใหม่ๆเข้าสู่วงการมากขึ้นเช่นกัน ทั้งเทรนด์การเพิ่มไซรัปและวิปครีมเข้าไปในเครื่องดื่ม เพื่อให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้นด้วยรสชาติเหมือนขนมหวาน และเทรนด์ล่าสุดที่น่าจับตามองคือ การชงกาแฟแบบ Pour Over” สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งสอดรับกับการพัฒนาลงการกาแฟให้ก้าวไปสู่คุณภาพระดับสูง หรือที่เรียกว่า กาแฟชนิดพิเศษ นั่นเอง

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการชงกาแฟแบบ Pour Over ณ แดนประปลาดิบและดอกซากุระสีชมพูอ่อนที่ผลิบาน ประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการดื่มชา โดยเฉพาะชาเขียวหรือมัจฉะ และมีพิถีการชงชาอันมีเอกลักษณ์สงบนิ่ง และงดงามสอดคล้องไปกับวิถีแห่งเซน อันเป็นสิ่งที่พวกเขานับถืออย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นได้รับวัฒนธรรมกาแฟเข้ามาในประเทศด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในยุคฟื้นฟูสมัยเมจินั้น กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มอีกประเภทหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง

จากวันนั้นเป็นต้นมา วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวญี่ปุ่นก็ผลิบานขึ้นภายใต้ร่มเงาของการดื่มชาและบ่มเพาะสไตล์เฉพาะตัวขึ้นมาโดยประยุกต์เอาธรรมเนียมปฎิบัติอันละเมียดละไมของการชงชามาใช้และมักดื่มกันในโรงเตี้ยมที่เรียกว่า Kissaten สถานที่มีระดับซึ่งสรรค์สร้างบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับมานั่งพัก พบปะสังสรรค์ และมีช่วงเวลาดีๆที่ร้านนั่นเอง

การชงกาแฟแบบ  Pour Over หรือฟิลเตอร์ นั้นจะใช้ฟิลเตอร์กระดาษหรือผ้าวางไว้บนกรวย ใส่กาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วเทน้ำร้อนลงไปอย่างต่อเนื่องให้เป็นรูปวงกลมก้นหอย วิธีการอาจดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจ เพราะจุดสำคัญอยู่ที่การควบคุมการรินน้ำไม่ให้ล้นหรือขาดช่วง และต้องต่อเนื่องสม่ำเสมอจนผงกาแฟผลิบานขึ้นมามีฟองและสีคล้ายคาราเมล

สำหรับรสชาติที่ได้จะมีรสที่ชัดเจน บริสุทธิ์ และลดความขมของกาแฟลงในขณะที่ยังคงความเปรี้ยวไว้ การดื่มจะอาศัยการจิบช้าๆ ทำให้คุณสามารถสัมผัสรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟได้อย่างสมบูรณ์ เป็นการสกัดรสชาติกาแฟออกมาอย่างสูงสุด

นอกจากจะได้รสชาติกาแฟที่ชัดเจนแล้ว  การชงกาแฟแบบ  Pour Over ยังมีข้อดีที่แตกต่างไปจากการชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ โดยเนื่องจากการชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่จะต้องใช้ความสำคัญกับความละเอียดของผงกาแฟมากกว่า และ ต้องใช้เครื่องบดหนึ่งตัวต่อกาแฟหนึ่งเบลนด์เดียว(ในร้านกาแฟทั่วไปมักมีเครื่องบด 3 เครื่อง คือ Single Origin, De-caf และเบลนด์พิเศษของทางร้านชนิดละ 1 เครื่อง)จึงทำให้ลูกค้าไม่สามารถบริโภคกาแฟได้หลากหลายเท่าใดนัก ในทางกลับกันการชงกาแฟแบบ Pour Over สามารถใช้เครื่องบดเครื่องเดียวกับพันธุ์กาแฟที่หลากหลายได้ และความหยาบละเอียดก็มีผลต่อรสชาติของกาแฟน้อยกว่าการชงแบบเอสเพรสโซ่

ญี่ปุ่นไม่เพียงเผยแพร่สไตล์การชงกาแฟเท่านั้นแต่ผลิตภัณฑ์สำหรับการชงกาแฟของญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์ “Hario” ยังกลายมาเป็นที่นิยมอย่างสูง เนื่องด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และมีราคาไม่สูงมากนักทั้งกาน้ำร้อน “Buono” ซึ่งมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยพวยกาจะแคบและมีรูปร่างเหมือนคอหงส์ เพื่อให้กระแสน้ำที่รินออกมานั้นเป็นสายบางๆ แต่มั่นคงสม่ำเสมอ ทำให้เราควบคุมการรินน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการชงกาแฟแบบ Pour Over และอุปกรณ์ “ V60 ”ซึ่งเป็นรูปกรวย อันเป็นที่นิยมในหมู่ร้านกาแฟชั้นนำ ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในแวดวงกาแฟ